มาทำความรู้จักกัญชงกันสักนิด... กัญชงหรือ "Hemp" มีแหล่งกำเนิดในเอเชียกลางและแพร่กระจายไปสู่เอเชียตะวันออก อินเดีย และทวีปยุโรป ความแตกต่างทางวัฒนธรรมในพื้นที่ได้ช่วยกำหนดสายพันธุ์ที่มีลักษณะเฉพาะ และลักษณะเฉพาะเหล่านั้นได้ถูกพัฒนาตามความตั้งใจในการใช้งาน การเพาะปลูก สำหรับเส้นใยและน้ำมันกัญชงจะถูกเพาะเลี้ยงจากเมล็ดใน dense rows ในขณะที่การปลูกฝ้ายจะต้องใช้ยาฆ่าแมลงและยาปราบศัตรูพืชจำนวนมากแต่กัญชง ไม่จำเป็น ดังนั้นมันจึงเป็นพืชที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กัญชงยังถูกปลูกแบบเกษตรอินทรีย์อีกด้วย การแยกเส้นใย เส้นใยจะถูกแยกออกจากลำต้นครั้งแรกโดยการอบแห้งและต่อมาโดยการ retting สิ่งนี้หมายความว่าลำต้นมักจะถูกปล่อยให้สลายตัวเพื่อให้เส้นใยที่เป็นแค่ ส่วนของลำต้นเหลืออยู่เท่านั้น ต่อมาลำต้นจะถูกตัดและถูกทำเป็นกลุ่มเล็กๆ ต่อมาเส้นใยจะถูกแยกจากลำต้นและถูกนำไปผ่านเครื่องโม่เพื่อกำจัดชิ้นไม้และ ลำต้นออกไป ผลิตพันธุ์ที่ทำจากเส้นใย, น้ำมัน, เมล็ดและลำต้นจะประกอบด้วยเส้นใย, สิ่งทอ, กระดาษ, พลาสติก, ช่องที่ใช้ทำแม่พิมพ์เครื่องพิมพ์, chip board, เชื้อเพลิง, น้ำยาทำความสะอาด, เครื่องสำอางและอาหาร กัญชง-ธัญพืชตัวใหม่ มีการฟื้นตัวในความสนใจกัญชงอีกครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ในรูปของอาหารเพื่อสุขภาพ, เส้นใยและเป็นไปได้ในทางอุตสาหกรรมของกัญชง มันเข้าสู่ตลาดในรูปของเส้นใยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อมันเติบโตภาย ใต้สภาวะทางเกษตรอินทรีย์ เส้นใยจะเป็นที่นิยมสำหรับเสื้อผ้าและแม้แต่รองเท้า ในปัจจุบันอาดิดาสได้มีผู้ฝึกการใช้เส้นใยของกัญชาและนักออกแบบแฟชั่นชั้นนำ ยังได้สร้างรูปแบบของกัญชงขึ้นมาอีกด้วย:Ralph Lauren and Calvin Klein เป็นสองผู้ออกแบบผู้รวมเส้นใยกัญชงเข้าในงานของพวกเขาอีกด้วย เครื่องนุ่งห่มเส้นใยของกัญชงได้ทำการทดสอบสำหรับการเป็น ฉนวนกันความร้อน, เยื่อกระดาษ, กระดาษ และอุตสาหกรรมรถยนต์ บริษัทที่ประกอบด้วย BMW, Ford, Nissan กำลังใช้ประโยชน์จากน้ำหนักที่เบาและแข็งแรงสูงของเส้นใยกัญชงเพื่อทำ door inserts, แผงหน้าปัดภายในและที่นั่ง ในปี 2000 ได้มีการใช้บางส่วนของกัญชง 3500 ต้น สำหรับการผลิตรถยนต์ในสหภาพยุโรป เส้นใยจากลำต้นของกัญชงสามารถถูกผสมกับเรซินของกัญชงเพื่อทำวัสดุก่อ สร้างที่แข็งแรง ในการทดลองได้มีการสร้างบ้านทำจากกัญชงที่ Haverhill ในสหราชอาณาจักร เส้นใยที่ไม่เป็นสัดส่วนของลำต้นกัญชงที่เรียกว่า Hurds สามารถถูกใช้ทำเป็นที่นอนของสัตว์และทำส่วนประกอบในบรรจุภัณฑ์ของ cellophane ยังมีตลาดสำหรับเมล็ดและน้ำมันของกัญชงด้วยโดยใช้ในอาหารและเพื่อผลิต ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย เช่น สบู่, น้ำยาทำความสะอาด,น้ำมัน, สีย้อมและแหล่งของกรด gamma-linolenic ที่เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ปัจจุบัน กัญชงสามารถกล่าวได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจ (โดยบังเอิญ) ชนิดหนึ่งบนพื้นที่สูงโดยเฉพาะชาวเขาเผ่าชาวเขาเผ่าม้ง ถึงแม้ว่ากัญชงจะเป็นพืชที่ไม่เคยมีหน่วยงานที่ทำการพัฒนาบนที่สูงให้ความ สนใจมาก่อนก็ตาม ทั้งนี้มีสาเหตุสืบเนื่องมาจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่ ได้มีโอกาสเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ นิยมซื้อผ้าใยกัญชงและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากใยกัญชงมาก ซี่งมีเหตุผลหลายประการที่ทำให้ผ้าใยกัญชงเป็นที่นิยมในท้องตลาด เช่น ผ้าทำจากใยกัญชงมีความทนทานมากกว่าผ้าที่ทำจากใยสังเคราะห์ ผ้าที่ทำจากฝ้าย หรือผ้าที่ทำจากฝ้ายผลมกับใยสังเคราะห์ และประการที่สำคัญชาวต่างประเทศซึ่งแทบจะทั้งหมดเป็นชาวยุโรปและอเมริกาซึ่ง เป็นประเทศอุตสาหกรรม ให้ความสนใจมากก็คือ มันเป็นผ้าที่ไม่ผ่านขบวนการผลิตที่ใช้เครื่องจักร แต่เป็นการผลิตด้วยมือทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นของหายากและมีราคาสูงสำหรับประเทศอุตสาหกรรม ** คัดลอกบทความบางส่วนจากงานเขียนของ รอง ศาสตราจารย์อาคม กาญจนประโชติ
|